ข้อที่ 1. การตรอมใจครั้งสุดท้ายของพระเยซู

เป็นเวลา 6,000 ปีที่พระเจ้าวิงวอนชายหญิงทั้งหลาย

“พระเจ้าตรัสว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด เราไม่พอใจในความตายของคนอธรรม แต่พอใจในการที่คนอธรรมหันจากทางของเขาและมีชีวิตอยู่” เอเสเคียล 33:11

ไม้กางเขนเปิดเผยให้เห็นถึงความปรารถนาของพระเจ้าที่ต้องการช่วยเหลือมนุษย์ที่ตกเป็นทาสของความบาป เมื่อพระเยซูทรงร้องออกมาบนไม้กางเขนว่า “พระบิดาเจ้าข้า ขอทรงยกโทษพวกเขาเพราะเขาไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร” พระองค์ทรงเปิดเผยความรู้สึกอันแสนเจ็บปวดรวดร้าวในพระทัยของพระองค์ (ลูกา 23:34) หลังจากนั้นพระเยซูทรงสละพระชนม์ของพระองค์บนไม้กางเขน บางคนเชื่อว่าพระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ด้วยพระทัยที่แตกสลาย (ยอห์น 19:30 และ 34)

ถึงแม้จะเห็นความรักอันอัศจรรย์ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าที่แสดงออกมาแล้วก็ตาม คนจำนวนมากก็ยังไม่ยอมเข้าหาพระเยซู ตราบใดที่ความบาปยังครอบครองโลกนี้ต่อไป ตราบนั้นมนุษย์จะต้องเผชิญกับทุกข์ทรมานที่ทวีคูณอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ความบาปต้องถูกทำลายให้หมดไป พระเจ้าทรงวางแผนทำลายบาปให้หมดไปอย่างไร?

“แต่วันขององค์พระผู้เป็นเจ้านั้น จะมาถึง.... ฟ้าจะหายลับไปด้วยเสียงดังกึกก้อง และโลกธาตุจะสลายไปด้วยไฟ และแผ่นดินกับสิ่งสารพัดที่อยู่บนนั้น จะถูกเผาจนหมดสิ้น” 2 เปโตร 3:10

ในที่สุดพระเจ้าจะทรงชำระล้างจักรวาลที่ชั่วร้ายและทำลายบาปจนหมดสิ้น คนที่ยังยืนกรานทำบาปต่อไปจะถูกทำลายด้วยไฟที่เตรียมไว้ทำลายมารร้าย ทูตบริวารของมันและความบาปให้หมดไปจากโลกนี้ นับว่าเป็นช่วงที่พระเยซูทรงเป็นทุกข์ในพระทัยอย่างสุดแสนที่ต้องเห็นไฟเผาไหม้คนที่พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อช่วยเขาให้รอดแล้ว

<< หน้าก่อน หน้าถัดไป >>