ข้อที่ 4. ทำไมเราควรจุ่มจนมิดน้ำ?

พระคริสต์รับบัพติศมาโดยการจุ่มในน้ำจนมิด ไม่ใช่การประพรมน้ำ ยอห์นรับบัพติศมาในแก่พระองค์ในแม่น้ำจอร์แดน “เพราะที่นั่นมีน้ำมาก” (ยอห์น 3:23) เมื่อพระเยซูเข้ารับบัพติศมาจากยอห์นนั้น พระองค์ทรงเดินลงไปในน้ำและ “เมื่อพระเยซูทรงรับบัพติศมาแล้ว [จุ่มลงในน้ำ] ก็ เสด็จขึ้นจากน้ำ” (มัทธิว 3:16)

เมื่อเราเข้าใจ ความหมาย การรับบัพติศมาอย่างแท้จริงแล้ว เราจะระลึกถึงรูปแบบจริงของการรับบัพติศมาได้ไม่ยากนัก คำว่า “บัพติศมา” มาจากภาษากรีก baptizo หมายความว่า จมหรือจุ่ม (อยู่ข้างใต้)

ระหว่างการเยือนอเมริกาในปี 1737 ของอาจารย์ จอห์น เวสลี่ย์ คณะกรรมการโบสถ์สามสิบสี่คนอนุญาตให้เขาใช้วิธีใหม่โดย “ปฏิเสธการรับบัพติศมาลูกของนายปาร์คเกอร์ ยกเว้นจะยอมจุ่มมิดน้ำ” เป็นข้ออ้างอิงว่าบาทหลวงของคริสเตียนนิกายเมธอดิสต์ ยังใช้วิธีการจุ่มมิดน้ำในการรับผู้เชื่อใหม่

จอห์น คาลวิน ผู้นำการปฏิรูปคริสตศาสนา กล่าวว่า “เป็นที่แน่นอนว่าโบสถ์ในสมัยโบราณบัพติศมาด้วยการจุ่มน้ำ” - —Institutes of the Christian Religion, Bk. 4, Chap. 15, Sec. 19. สถาบันศาสนาคริสต์ เล่ม 4 บทที่ 15 ส่วนที่ 19

ประวัติศาสตร์ของคริสตจักรยุคแรกแสดงให้เห็นชัดเจนว่า การรับบัพติศมาหมายถึงการจุ่มน้ำจนมิด ดีน สแตนเล่ย์ จากคริสตจักรแห่งอังกฤษเขียนไว้ว่า “เพราะตลอดสิบสามศตวรรษแรกที่เกือบทั่วโลกมีการรับบัพติศมา เหมือนกับที่เราอ่านในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ ซึ่งเป็นความหมายที่แท้จริงของคำว่า ‘บัพติศมา’ เขาเหล่านั้นรับบัพติศมาโดยการลงไปในน้ำ จมอยู่ใต้น้ำ จุ่มมิดน้ำ” — Institutes of the Christian Religion สถาบันคริสเตียน หน้า 21

การรับบัพติศมาโดยการจุ่มมิดน้ำปรากฏในคริสตจักรหลายแห่งในยุโรปและเอเซีย ที่สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่สี่ถึงศตวรรษที่สิบสี่ เช่นโบสถ์ที่เมืองปิซา ประเทศอิตาลีและโบสถ์เซนต์จอห์นซึ่งใหญ่ที่สุดในกรุงโรม

วิธีการประพรมด้วยน้ำไม่ใช่วิธีปฏิบัติในการบัพติศมา จนกระทั่งในช่วงต้นศตวรรษที่สิบห้า เมื่อมีการประชุมสภาคริสตจักรที่เมืองเรเวนน่าของคริสตจักรโรมันคาทอลิก ยอมรับการประพรมด้วยน้ำว่าเทียบเท่ากับการจุ่มมิดน้ำ เหตุการณ์นี้นำมาซึ่งคำถามเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติในคริสตจักรว่า เราจะไม่ทำตามที่มนุษย์สอน แต่เราจะทำตามที่พระคริสต์และอัครสาวกของพระองค์สอน

คริสเตียนที่จริงใจหลายคนยึดมั่นตามธรรมเนียมการรับบัพติศมาทารก การอุทิศลูกของเขาแด่พระเจ้า ตั้งแต่ยังเป็นทารกนั้นเป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญยกย่อง อย่างไรก็ตามพระคริสตธรรมคัมภีร์บอกไว้ชัดเจนเกี่ยวกับการรับบัพติศมาว่า คนนั้นจะต้องได้รับการสอนให้รู้จักวิธีการช่วยให้รอดจากบาปก่อนการรับบัพติศมา (มัทธิว 28:19, 20) โดยเขาจะต้องเชื่อพระเยซูก่อนรับบัพติศมา (กิจการของอัครทูต 8:35-38) ต้องกลับใจจากบาปก่อนและได้รับการให้อภัยก่อนรับบัพติศมา (กิจการของอัครทูต 2:38) เด็กทารกไม่มีความสามารถพอที่จะฟัง กลับใจและสารภาพบาป ซึ่งทั้งหมดคือสิ่งที่จะต้องดำเนินการก่อนรับบัพติศมา

<< หน้าก่อน หน้าถัดไป >>