ข้อที่ 3. อธิษฐานส่วนตัว

ส่วนใหญ่เรามักจะลังเลที่จะเล่าเรื่องต่างๆ ให้เพื่อนฟังแม้จะเป็นเพื่อนสนิทที่สุดก็ตาม ดังนั้นเมื่ออธิษฐานเป็นการส่วนตัวกับพระเจ้าทรงประสงค์ให้เราผ่อนคลายเต็มที่ พระองค์ไม่ทรงต้องการรู้ข้อมูลใดๆ ฤทธานุภาพทำให้รู้ถึงความกลัวลึกลับ แรงผลักดันที่ซ่อนไว้ ความไม่พอใจของเราที่ถูกฝังไว้ แท้จริงแล้วพระองค์ทรงรู้ดีกว่าเราเสียอีก จึงต้องเปิดใจต่อพระองค์ผู้ทรงเป็นหนึ่งเดียว ผู้ทรงสนิทสนมกับเราและผู้ทรงรักทุกคนอย่างหาที่สุดมิได้ การรักษาจะเริ่มขึ้นต่อเมื่อพระเยซูทรงสามารถสัมผัสบาดแผลได้เท่านั้น

เมื่ออธิษฐาน พระเยซูมหาปุโรหิตของเราจะทรงอยู่ใกล้เพื่อช่วยเหลือทุกครั้ง

“เพราะว่า เราไม่ได้มีมหาปุโรหิตที่ไม่สามารถจะเห็นใจในความอ่อนแอของเรา แต่ทรงเคยถูกทดลองใจเหมือนเราทุกอย่าง ถึงกระนั้นพระองค์ก็ยังปราศจากบาป ฉะนั้นขอให้เราเข้ามาถึงพระที่นั่งแห่งพระคุณด้วยความกล้า เพื่อเราจะได้รับพระเมตตา และจะพบพระคุณที่ช่วยเราในยามต้องการ” ฮีบรู 4:15, 16

ท่านรู้สึกกังวลใจ เครียดหรือรู้สึกผิดบ้างไหม? จงมอบสิ่งเหล่านั้นแก่พระเจ้า แล้วพระองค์จะทรงช่วยให้เราสมปรารถนาทุกประการ

จำเป็นต้องมีสถานที่พิเศษเพื่อการอธิษฐานส่วนตัวหรือไม่?

“ส่วนท่านเมื่ออธิษฐานจงเข้าในห้องชั้นใน และเมื่อปิดประตูแล้ว จงอธิษฐานต่อพระบิดาของท่านผู้สถิตในที่ลี้ลับแล้วพระบิดาของท่านผู้ทอดพระเนตรเห็นในที่ลี้ลับจะประทานบำเหน็จแก่ท่าน” มัทธิว 6:6

นอกจากคริสเตียนทุกคนจะอธิษฐานระหว่างเดินตามถนน ทำงานหรืออยู่ในวงสังคมที่สนุกสนานแล้ว เขาทุกคนควรกำหนดเวลาอธิษฐานส่วนตัวและศึกษาพระคัมภีร์ในแต่ละวันด้วย ขอให้ท่านจัดทำตารางนัดหมายเพื่อพบพระเจ้าในเวลาที่ท่านสนใจและตื่นตัวที่สุด

<< หน้าก่อน หน้าถัดไป >>