ข้อที่ 2. ใครเป็นผู้เขียนพระคริสตธรรมคัมภีร์?

ขณะที่บรรดาผู้เผยพระวจนะยังมีชีวิตอยู่ เขาจะประกาศข่าวของพระเจ้าด้วยการพูดหรือเขียน เมื่อพวกเขาเสียชีวิตไป

งานเขียนเหล่านั้นยังคงอยู่ พระเจ้าทรงให้มีการรวบรวม งานเขียนเหล่านั้นไว้เป็นรูปเล่มเรียกว่า พระคริสตธรรมคัมภีร์

เราจะเชื่อถือการเขียนของบรรดาผู้เผยพระวจนะได้อย่างไร?

ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจข้อนี้ก่อน คือผู้หนึ่งผู้ใดจะตีความหมายคำของผู้เผยพระวจนะในพระคัมภีร์เอาเองไม่ได้ เพราะว่าคำของผู้เผยพระวจนะนั้น ไม่ได้มาจากความประสงค์ของมนุษย์เลย แต่มนุษย์กล่าวคำซึ่งมาจากพระเจ้า ตามที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงดลใจเขา” 2 เปโตร 1:20, 21

ผู้เขียนพระคริสตธรรมคัมภีร์ไม่ได้เขียนข่าวสารขึ้นเองตามความคิดหรือตามความต้องการของพวกเขา แต่ได้รับการดลใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า พระคริสตธรรมคัมภีร์เป็นหนังสือที่พระเจ้าทรงเป็นเจ้าของ

ในพระคริสตธรรมคัมภีร์พระเจ้าตรัสถึงพระองค์และพระประสงค์เพื่อเผ่าพันธุ์มนุษย์ เป็น การประมวลความคิดของพระองค์ในอดีต เปิดเผยอนาคต และบอกถึงวิธีการแก้ปัญหาความชั่วร้ายจนกระทั่งการพบสันติสุขบนโลกของเรา

พระคริสตธรรมคัมภีร์ทั้งเล่มเป็นข่าวสารจากพระเจ้า?

พระคัมภีร์ทุกตอนได้รับการดลใจจากพระเจ้าและเป็นประโยชน์ในการสอน การตักเตือนว่ากล่าว การแก้ไขสิ่งผิดและการอบรมในความชอบธรรม เพื่อคนของพระเจ้าจะมีความสามารถและพรักพร้อมเพื่อการดีทุกอย่าง” 2 ทิโมธี3:16, 17

พระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์มีผลต่อมนุษย์อย่างลึกซึ้งเพราะพระคริสตธรรมคัมภีร์ “ทั้งเล่ม” เป็น “ลมปราณของพระเจ้า” เป็นชิ้นงานที่เกิดจากการดลใจ เป็นหนังสือของพระเจ้า เป็นข่าวสารโดยตรงจากพระองค์ซึ่งทำให้บรรดาผู้เผยพระวจนะได้ เห็นหรือได้ยินเป็นภาษามนุษย์

หากท่านอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตทั้งหมด ขอให้อ่านพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้ชีวิตของท่านจะเปลี่ยน เมื่อท่านอ่านด้วยแรงอธิษฐานมากเท่าใด ท่านก็จะยิ่งพบสันติสุขในใจท่านมากเท่านั้น

เช่นเดียวกัน หากท่านอัญเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์มาประทับขณะเมื่ออ่านพระคัมภีร์ ท่านจะได้รับการดลใจให้เข้าใจการศึกษาพระคริสตธรรมคัมภีร์ซึ่งจะส่งผลทำให้ชีวิตของท่านเปลี่ยนไป เหมือนที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงดลใจให้ผู้เผยพระวจนะเขียนพระคัมภีร์

<< หน้าก่อน หน้าถัดไป >>