“ถ้าไม่มีโลหิตไหลออกมา ก็จะไม่มีการยกโทษบาปเลย” (ฮีบรู 9:22) สิ่งที่เกิดขึ้นในการนมัสการตามพระคัมภีร์เดิมชี้ให้เห็นถึงการช่วยให้เรารอดบาปที่ยิ่งใหญ่ของพระคริสต์พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อเรา ทรงเสด็จเข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ “ครั้งเดียวเป็นพอ จึงได้มาซึ่งการไถ่บาปชั่วนิรันดร์”แก่เรา (พระธรรมข้อ 12) เมื่อพระโลหิตของพระเยซูหลั่งบนกางเขนเพื่อบาปของเรา “ม่านในพระวิหารก็ฉีกขาดออกเป็นสองท่อนตั้งแต่บนตลอดล่าง” (มัทธิว 27:51) เพราะการเสียสละของพระเยซูบนไม้กางเขน จึงไม่จำเป็นต้องมีการบูชายัญสัตว์อีกต่อไป
เมื่อพระเยซูทรงหลั่งพระโลหิตของพระองค์ลงบนไม้กางเขน พระองค์ทรงมอบชีวิตที่เชื่อฟังอย่างสมบูรณ์แบบของพระองค์มารับเอาความผิดทั้งปวงแทนเรา เมื่อพระบิดาและพระบุตรทรงแยกจากกันที่เนินเขาคาลวารี ครั้งนั้นพระบิดาทรงเบือนพระพักตร์หนีด้วยความทุกข์พระทัย ขณะที่พระบุตรก็ทรงสิ้นพระชนม์ด้วยหัวใจที่แตกสลาย พระเจ้าและพระบุตรทรงก้าวเข้าไปในประวัติศาสตร์เพื่อมอบพระองค์รับเอาผลของบาปอย่างเต็มที่ เพื่อแสดงให้เห็นว่าการ
กระทำผิดเป็นเรื่องน่าเศร้าเพียงใด พระองค์ทรงให้อภัยคนบาปจนหมดสิ้น พระคริสต์ “ทรงทำให้เกิดสันติภาพโดยพระโลหิตแห่งกางเขนของพระองค์” (โคโลสี 1:20)