ข้อที่ 9. พระคุณของพระเจ้าและการรักษาพระบัญญัติ

การช่วยให้รอดจากบาปเป็นของประทาน มนุษย์ไม่สามารถช่วยตัวเองให้รอดพ้นได้ เรารอดได้โดยความเชื่อเท่านั้น ได้รับการตัดสินให้เป็นคนชอบธรรม (มีสิทธิ์ยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้าได้) เป็นของประทานที่ได้รับโดยทางความเชื่อ เพราะเป็นพระคุณของพระเจ้า

“เพราะว่าท่านทั้งหลายได้รับความรอดแล้วด้วยพระคุณโดยทางความเชื่อ ความรอดนี้ไม่ได้มาจากตัวท่านแต่เป็นของประทานจากพระเจ้า ไม่ใช่มาจากการกระทำเพื่อไม่ให้ใครอวดได้” เอเฟซัส 2:8

ลำพังตัวเราเองไม่สามารถรักษาพระบัญญัติเพื่อให้รอดได้ แต่เมื่อยอมจำนนต่อพระเยซูด้วยความเชื่อ ก็จะได้รับความรอดจากบาปด้วยความรักของพระองค์ที่มีเต็มล้นในจิตใจผลของพระคุณ และการยอมรับพระองค์ทำให้เราติดตามและเชื่อฟังพระคริสต์โดยความรักของพระองค์ที่หลั่งเข้าสู่จิตใจของเรา (โรม 5:5)

อัครทูตเปาโลเน้นถึงความพยายามที่ไร้ประโยชน์ของมนุษย์ และชี้ให้เห็นว่าเราไม่ได้รับความรอดจากการประพฤติตามธรรมบัญญัติ แต่ได้รับความรอดจากความรู้สึกที่พระเจ้ามี “พระคุณ” แก่เรา

“เราจะทำบาปเพราะไม่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ แต่อยู่ใต้พระคุณอย่างนั้นหรือ? เปล่าเลย!” โรม 6:15

ทำไมหรือ? ก็เพราะว่าความรักเป็นแรงจูงใจให้จิตใจมีชีวิตที่เชื่อฟังด้วยความรัก (โรม 13:10) ความรักที่มีต่อพระคริสต์ทำให้เราเชื่อฟังพระองค์

“ใครที่มีบัญญัติของเราและประพฤติตามบัญญัติเหล่านั้น คนนั้นเป็นคนที่รักเรา” ยอห์น 14:21

อาจารย์อีริค ลิดเดิล อธิบายว่า ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ผู้เชื่อในฤทธานุภาพของพระเจ้าจะสามารถมีชีวิตที่เชื่อฟังและเกิดความพอใจในสิ่งนั้น ลิดเดิลแสดงให้เห็นถึงพระคุณทรงพลังในยามคับขันและหวาดกลัว ความรักที่มีต่อพระคริสต์จะก่อตัวเป็นพลังร่วมกับการดลใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อให้เข้าถึง “หลักความประพฤติที่เป็นตามธรรมบัญญัติ”(โรม 8:1-4) ความสัมพันธ์แห่งรัก การถูกตรึงกางเขนและการฟื้นคืนพระชนม์สามารถทำให้คุณภาพชีวิตเกิดขึ้นได้

ท่านค้นพบความลับนี้เพื่อตัวท่านเองแล้วหรือยัง? ความรักของพระเยซูที่มีต่อท่านทำให้พระองค์ทรงยอมสิ้นพระชนม์เพื่อบาปของท่าน พระองค์ทรงทำให้ท่านมีพลังอำนาจด้วยความรักของพระองค์และ “ทรงให้พวกท่านเพียบพร้อมด้วยสิ่งดีๆ ทุกอย่าง เพื่อที่จะทำตามพระทัยของพระองค์”(ฮีบรู 13:21) ท่านตอบรับพระองค์อย่างไร?

<< หน้าก่อน หน้าถัดไป >>