ข้อที่ 5. ความฝันของกษัตริย์และท่าน

การพยากรณ์นี้เปิดเผยถึงการทรงนำของพระเจ้า ให้เห็นความเจริญรุ่งเรืองหรือการเสื่อมถอยของประชาชาติ พระองค์ทรงอดีต พระคริสตธรรมคัมภีร์กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าพระองค์ทรงล่วงรู้ถึงอนาคตด้วยเช่นกัน

หากพระเจ้าทรงชี้ชะตาของชนชาติได้แม่นยำขนาดนี้พระองค์ก็ย่อมสามารถนำทางชีวิตเราแต่ละคนได้อย่างแน่นอนเช่นกัน พระเยซูได้ทรงมอบความมั่นใจแก่เราว่า “ถึงผมของท่านทั้งหลาย ก็ทรงนับไว้แล้วทุกเส้น เพราะฉะนั้นอย่ากลัวเลย” (มัทธิว 10:30-31) ความเชื่อซึ่งเป็นของประทานจากองค์พระผู้เป็นเจ้าสามารถเป็นยาแก้พิษขจัดความกังวลและความกลัวต่างๆ ของเราได้ ความหวังที่พระองค์ทรงดลใจให้ยึดไว้นั้นเป็นเสมือนสมอที่แน่นอน และมั่นคงของจิตใจของเรา (ฮีบรู 6:19)

ในศตวรรษที่สิบหกนักปราชญ์อีรัสมัสบรรยายถึงการเดินเรือทะเลซึ่งเขาจะต้องจดจำไปตลอดชีวิตที่เหลือของเขาเรือเกยตื้นท่ามกลางพายุร้าย คลื่นบ้าระห่ำเริ่มซัดเรือจนพังแหลกราญ แม้กะลาสียังสะพรึงกลัว ผู้โดยสารกลัวจนแทบบ้า ส่วนใหญ่จะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากนักบุญอุปถัมภ์บ้าง ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าบ้างหรืออธิษฐานวิงวอนด้วยเสียงอันดังบ้าง

อีรัสมัสสังเกตเห็นผู้โดยสารคนหนึ่งต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง “เราทุกคน ทั้งหมด” อีรัสมัสเขียน “ยกเว้นเพียงคนเดียวที่ยังคงสำรวมที่สุด นั่นคือ หญิงสาวแม่ลูกอ่อนซึ่งกำลังให้นมลูกอยู่ เธอเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ตะโกนร้อง ไม่ร้องไห้น้ำตาซึม หรือไม่มีการต่อรองกับสวรรค์ เธอไม่ทำอะไรเลยนอกจากอธิษฐานอย่างเงียบๆ ขณะที่โอบกอดลูกไว้แนบแน่นบนตักของเธอ”

อีรัสมัสตระหนักดีว่า การอธิษฐานของเธอในครั้งนี้เป็นเพียงการอธิษฐาน ที่เธอทำอย่างสม่ำเสมอในชีวิตการอธิษฐานของเธอเท่านั้น เธอมิได้ร้องขอความคุ้มครองพิเศษใดๆ และดูเหมือนเธอมอบความไว้วางใจให้กับพระเจ้าเท่านั้นเอง

ขณะที่เรือเริ่มจม หญิงแม่ลูกอ่อนยืนพร้อมอยู่บนแผ่นกระดาน เธอใช้เสาค้ำยันเป็นไม้พายที่แจวพาแผ่นกระดานของเธอเคลื่อนตัวไปตามมวลคลื่น มือหนึ่งอุ้มลูกอีกมือหนึ่งพยายามจับไม้พายแจว ความคิดสองสามอย่างแล่นเข้ามาว่าเธอจะต้องรอดจากคลื่นที่ซัดแรงกระหน่ำขนาดนี้

ด้วยความเชื่อและความสำรวมของเธอทำให้เธอมีสติและไม่หวั่นไหว ในที่สุดแผ่นกระดานนั้นพาหญิงแม่ลูกอ่อนพร้อมลูกในอกเข้าถึงฝั่งเป็นคู่แรก ความหวังในพระเจ้าผู้ควรค่าแก่การวางใจ ผู้ทรงสามารถทำทุกสิ่งให้มีความต่าง แม้กระทั่งยามที่โลกรอบๆ ตัวเราดูเหมือนจะแตกดับ ก็ไม่จำเป็นต้องตะเกียกตะกายโดยลำพัง เพราะพระหัตถ์ที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์จะคอยชี้นำและพยุงเราขึ้นมา

หากท่านยินยอมเข้าหาพระคริสต์ด้วยสุดจิตสุดใจพระองค์จะทรงประทานความเชื่อแก่ท่าน ซึ่งความเชื่อนี้จะคอยดูแลปกป้องให้ท่านสามารถฟันฝ่าพายุได้ทุกครั้ง เป็นการพบสันติสุขอันน่าอัศจรรย์ที่พระเยซู ทรงสัญญาไว้

“เรามอบสันติสุขไว้กับพวกท่าน สันติสุขของเราที่ให้กับท่านนั้น...อย่าให้ใจของท่านเป็นทุกข์อย่ากลัวเลย” ยอห์น 14:27

ท่านมีสันติสุขแบบนี้แล้วหรือยัง? หากท่านมีแล้วอย่าลืมขอบคุณพระเยซู พระผู้ช่วยให้รอดบาปของท่าน หากท่านยังไม่มี ทำไมท่านไม่ทูลเชิญพระองค์ให้มาสถิตในชีวิตของท่านเสียตั้งแต่วันนี้?

<< หน้าก่อน หน้าถัดไป >>