บทที่ 4. แผนการสำหรับชีวิตของท่าน

หลังจากที่ศาสนาจารย์พูดเรื่อง “ทำไมผมจึงเชื่อพระเยซู” ชายหนุ่มแต่งตัวภูมิฐานคนหนึ่งเดินเข้ามา “คำพูดของท่านคืนนี้ดูน่าสนใจทีเดียว แต่ทุกอย่างที่ท่านพูดเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์นั้นมาจากพระคัมภีร์ของท่าน ช่วยบอกผมหน่อยว่า หากพระเยซูทรงเคยมีชีวิตจริงบนโลกนี้ แล้วทำไมประวัติศาสตร์จึงไม่บันทึกเรื่องราวของพระองค์ไว้?”

“เป็นคำถามที่ดีครับ” อาจารย์ตอบ พลางหยิบหนังสือมาหลายเล่ม “ความจริง...ประวัติศาสตร์พูดถึงพระเยซูคริสต์เหมือนกันนะครับ”

“งั้นขอผมดูหน่อยครับ” ชายหนุ่มตอบ “ได้ครับ นี่ไง จดหมายพลินี่ เดอะ ยังเกอร์ ฉบับที่ 97 ในหนังสือเล่มที่ 10 เขาเป็นผู้บัญชาการทหารสมัยโรมันที่รัฐบิทาเนียโบราณ ทางด้าน

ตะวันตกเฉียงเหนือของเอเซียไมเนอร์ (เอเชียน้อย) ที่เก่าแก่พลินี่เขียนจดหมายถึงจักรพรรดิ์โรมันชื่อ ทราจัน เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในรัฐของเขา เห็นไหมครับ นี่คือสิ่งที่พลินี่ขอคำปรึกษา

ถึงวิธีรับมือกลุ่มคริสเตียนนิกายใหม่ เขาพูดถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของคริสเตียนและวิธีการร้องเพลงสรรเสริญ พระคริสต์ผู้นำ มีการส่งจดหมายของพลินี่เมื่อประมาณปี ค.ศ. 110 ซึ่งถือ

เป็นหลักฐานอ้างอิงทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์และความเชื่อพระองค์ได้แพร่กระจายในยุคสมัยของอัครสาวก”

ชายหนุ่มประหลาดใจและพูดว่า “ผมอยากฟังต่อครับ!”

ขณะที่อาจารย์พลิกหนังสืออีกเล่มหนึ่ง เขาเสริมว่า “ทาซีทัส ผู้เชี่ยวชาญ ด้านประวัติศาสตร์อีกคนหนึ่งในสมัยเดียวกับพลินี่ ได้พูดไว้ในรายงานประจำปีของเขา (เล่มที่ 15 บทที่ 44)

ถึงความเกลียดชัง และการทารุณคริสเตียนของจักรพรรดิ์นีโร (Nero) ซึ่งตรงกับช่วงเวลาการเผากรุงโรม ทาซีทัสอธิบายว่า “คริสเตียน” มาจากชื่อ “พระคริสต์” และในสมัยของจักรพรรดิ์ทิเบอร์เรียส ผู้สำเร็จราชการแคว้นจูเดียชื่อ ปอนติอัส ปีลาส ได้ตรึงพระเยซูคริสต์ผู้ก่อตั้งศาสนาคริสต์บนไม้กางเขน ซึ่งเรื่องราวนี้สอดคล้องกับเหตุการณ์ ชื่อ และสถานที่ในพระคริสตธรรมคัมภีร์อย่างชัดเจน”

“อาจารย์ครับ ผมไม่รู้มาก่อนว่าเรื่องนี้มีอยู่ในประวัติศาสตร์โลกด้วย!” ชายหนุ่มอุทานขึ้น

อาจารย์เสริมขึ้น “ผมอยากให้คุณสังเกตว่าประมาณปีค.ศ. 180 เซลซัสเขียนหนังสือโจมตีคริสเตียน และระบุว่าถึงเวลาแล้วที่ความเป็นคริสเตียนได้กลายเป็นพลังที่บังคับให้เขาต้องเข้าใจ และหากท่านยังสงสัยอยู่ ขอให้ระลึกว่าพระกิตติคุณสี่เล่มแรกนี้ถือเป็นประวัติศาสตร์ได้มากพอๆ กับหนังสือทางโลกเลยทีเดียว”

เมื่อชายหนุ่มผู้นี้ตระหนักแล้วว่า พระเยซูคริสต์ทรงมีพระชนม์จริง ซึ่งเปิดเผยทั้งในประวัติศาสตร์ทางโลกและทางธรรม เขาเดินจากไปด้วยความเชื่อมั่นว่า เรื่องราวของพระเยซูคริสต์เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นใน ประวัติศาสตร์จริง

ในบทเรียนนี้ประกอบด้วย

    1. พระคริสต์ทรงพระชนม์ตลอดแต่นิรันดร์กาล

    2. พระคริสต์ทรงเป็นหัวใจของประวัติศาสตร์และคำพยากรณ์

    3. ชีวิตของพระคริสต์เ ป็น จริงตามคำพยากรณ์

    4. ชีวิตเป็นไปตามแผนการของพระเจ้า

    5. การทรงนำต่างๆ ต้องมีความสอดคล้องกัน

    6. การยอมรับแผนการของพระเจ้า

<< หน้าก่อน หน้าถัดไป >>