บทที่ 3. ชีวิตของฉันมีค่าสำหรับพระเจ้าจริงหรือ?
เช้าวันใหม่บางวันให้ความรู้สึก...เหมือนอยู่บนสวรรค์ท่านตื่นขึ้นยืนอย่างสบายอารมรณ์มองออกไปนอกหน้าต่างสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด เห็นแสงอาทิตย์สาดส่องสีทองสะท้อนเป็นประกายใบไม้ใบหญ้าทุกต้น เป็นห้วงเวลา ที่ชีวิตดูมีค่า มีราคา มีการห่วงหาอาทรเมื่อเพื่อนรักลาจาก ได้ฟังดนตรีที่ไพเราะจับใจชวนให้ไหลหลง ได้รับการสัมผัสถึงความรักที่มีให้เกินคาดของเด็กน้อย
แต่เช้าวันใหม่บางวันให้ความรู้สึก... เหมือนอยู่บนโลกที่ช่างมืดมนน่ากลัว สยดสยอง ท่านตื่นขึ้น พบข่าวร้ายๆ พาดหัวหนังสือพิมพ์ การประโคมข่าววางระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตามด้วย
เสียงร้องไห้โหยหวนของเด็กไร้เดียงสาที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ต้องกลายเป็นคนพิการหรือตาบอด ไหนจะข่าวฆาตกรฆ่าเหยื่ออย่างต่อเนื่องนับเป็นรายที่สิบ ไหนจะข่าวความอดอยากหรือสงคราม หรือแผ่นดินไหว เป็นห้วงเวลาที่ชีวิตเหมือนผักปลา ไม่มีราคาค่างวด ตีรันฟันแทงและตายเป็นว่าเล่น ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
ทั้งหมดนี้หมายความว่าอะไรกันแน่? เราเข้าใจโลกที่สับสนใบนี้ไหม? เรามาอยู่ที่นี่ทำไม? ชีวิตของฉันมีค่าสำหรับพระเจ้าจริงหรือ หรือฉันเป็นเพียงแค่ฟันเฟืองซี่เล็กๆ ในกลไกของจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้?
ในบทเรียนนี้ประกอบด้วย
พระเจ้าทรงสร้างโลกที่สมบูรณ์แบบ
สร้างโลกในหกวัน
ความบาปเข้ามาในโลกที่สมบูรณ์แบบแห่งนี้
ใครคือมารผู้ทำให้โลกแปดเปื้อนไปด้วยบาป?
พระเจ้าทรงสร้างซาตานใช่หรือไม่?
ทำไมลูซีเฟอรท์ ูตสวรรคผ์ สู้ มบูรณ์แบบจึงทำบาป?
ใครควรรับผิดชอบความบาป?
ไม้กางเขนสามารถขจัดความบาปได้