ข้อที่ 2. พระคริสต์เสด็จมาตรงเวลา

พระเยซูทรงได้รับการเจิมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์เมื่อทรงรับบัพติศมา

“เมื่อพระเยซูทรงรับบัพติศมาแล้วก็เสด็จขึ้นจากน้ำ และในทันใดนั้นฟ้าก็แหวกออกและพระองค์ทรงเห็นพระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาดุจนกพิราบสถิตบนพระองค์ และนี่แน่ะ มีพระสุรเสียงตรัสจากฟ้าสวรรค์ว่า ‘ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านมาก’” มัทธิว 3:16, 17

หลังจากการเจิมพระคริสต์ด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ในการรับบัพติศมา ของพระองค์ ทำให้สาวกทั้งหลายประกาศว่า

“‘เราพบพระเมสสิยาห์’ (ซึ่งแปลว่าพระคริสต์)” ยอห์น 1:41

บรรดาสาวกทราบดีว่า เมสสิยาห์เป็นคำในภาษาฮีบรู และพระคริสต์เป็นคำในภาษากรีกทั้งสองคำมีความหมายว่า “ผู้ได้รับการทรงเจิม”

ลูกา (สาวกคนหนึ่งของพระเยซู) บันทึกปีแห่งการเจิมของพระเยซูเป็น พระเมสสิยาห์ในปีที่สิบห้าแห่งรัชกาลของจักรพรรดิทิเบริอัสซีซาร์ (ลูกา 3:1, 2) หรือ 27 ปี หลังคริสตกาล

เมื่อ 500 กว่าปีก่อนพระเยซูเสด็จมา ผู้เผยพระวจนะดาเนียลได้พยากรณ์ไว้ว่า พระเยซูจะเสด็จมาปรากฏและถูกเจิมเป็นพระเมสสิยาห์

ในปี ค.ศ. 27

“เพราะฉะนั้นจงทราบและเข้าใจว่า นับตั้งแตก่ าลที่ถ้อยคำนั้นออกไปให้สร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่จนถึงสมัยผู้ถูกเจิมไว้......เป็นเวลาเจ็ด ‘สัปตะ’(สัปดาห์) และเป็นเวลาหกสิบสองสัปตะ” ดาเนียล 9:25

เจ็ดสัปดาห์และหกสิบสองสัปดาห์รวมเป็นหกสิบเก้าสัปดาห์หรือ 483 วัน (7 x 69 = 483 วัน) คำพยากรณ์ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ที่เป็นสัญลักษณ์นับหนึ่งวันเท่ากับหนึ่งปี (เอเสเคียล 4:6; กันดารวิถี 14:34) ดังนั้น 483วันจึงเท่ากับ 483 ปี ดาเนียลทำนายว่าจะมีคำสั่งให้สร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นมาใหม่ให้เหมือนเดิม และหลังจากคำสั่งนี้ผ่านไป 483 ปี พระเมสสิยาห์จะทรงปรากฏอย่างแน่นอน

พระเยซูทรงปรากฏเป็นพระเมสสิยาห์ตามเวลาที่กำหนดไว้หรือไม่? พระราชาอารทาเซอร์ซีสทรงออกกฎหมายให้สร้างกรุงเยรูซาเล็มขึ้นใหม่ในปี 457 ก่อนคริสตกาล (เอสรา 7:7-26) เวลาได้ผ่านไปจนครบ 483 ปี สิ้นสุดลงใน ค.ศ. 27 (457 ก่อนคริสตกาล + ค.ศ. 27 = 484) อย่างไรก็ตามมีการออกกฎหมายระหว่างปี 457 และพระคริสต์ทรงถูกเจิมระหว่างปี ค.ศ. 27 ทำให้เวลาทั้งสองไม่เต็มปี ดังนั้นระยะเวลาที่ถูกต้องจึงเป็น 483 ปี นั่นเอง เวลาที่กำหนดคือ ค.ศ. 27 พระเยซูทรงปรากฏพร้อมข่าวประเสริฐว่า “เวลาได้มาถึงแล้ว” (มาระโก 1:15) การเกิดขึ้นจริงอย่างแม่นยำตามคำพยากรณ์ในพระคริสตธรรมคัมภีร์นั้นเป็นคำยืนยันที่น่าประหลาดใจว่า พระเยซูชาวนาซาเร็ททรงเป็นพระเมสสิยาห์อย่างแน่นอน พระเจ้าเสด็จลงมาในโลกเป็นสภาพเนื้อหนังมนุษย์

พระเยซูทรงใช้เวลาในการยืนยันพันธสัญญานานเท่าไร?

“ท่านจะทำพันธสัญญาเข้มแข็งกับคนเป็นอันมากอยู่หนึ่ง ‘สัปตะ’ (สัปดาห์)” ดาเนียล 9:27

เมื่อเราใช้กฎหนึ่งวันเท่ากับหนึ่งปี ดังนั้นหนึ่ง “สัปดาห์” เท่ากับเจ็ดปี หมายถึงพระเยซูทรง “ทำพันธสัญญาเข้มแข็ง” หรือพระสัญญาที่พระองค์ทรงให้กับมนุษย์ตั้งแต่ ค.ศ. 27 ถึง ค.ศ. 34 นับเป็นเวลาเจ็ดปีตามพระวจนะข้างต้นพอดี หลังจากที่อาดัมและเอวาทำบาปพระเจ้าทรงทำพันธสัญญากับเขาทั้งสองว่าพระองค์จะทรงช่วยพงศ์พันธ์ุมนุษย์จากบาปโดยความตายของผู้หนึ่ง ที่พระองค์ทรงส่งมา (ปฐมกาล 3:15)

ในช่วงกลางสัปดาห์ที่เจ็ดสิบนี้มีอะไรเกิดขึ้น?

“ท่านจะกระทำให้การถวายสัตวบูชาและเครื่องบูชาอื่นๆ หยุดไปครึ่ง ‘สัปตะ’ (หมายถึงสัปดาห์)” ดาเนียล 9:27

พระเยซูทรงถูกตรึงกางเขนในปี ค.ศ. 31 คือในช่วง “ครึ่งสัปดาห์” เวลาสิ้นพระชนม์ของพระเยซู “ม่านในพระวิหารก็ฉีกขาดออกเป็นสองท่อนตั้งแต่บนตลอดล่าง” (มัทธิว 27:51) เครื่องบูชาที่กำลังจะถูกฆ่า (เป็นสัญลักษณ์ของพระเยซู “พระเมษโปดกของพระเจ้า”) ได้หลบหนีจากมือของปุโรหิตเหตุการณ์นี้เป็นเครื่องหมายว่าพระเจ้าไม่ทรงประสงค์ให้มนุษย์ถวายสัตวบูชาอีกต่อไป คำพยากรณ์ที่สำเร็จถูกต้องตรงตามอักษรทุกตัวคือ พระเยซูทรง “หยุด” การถวาย สัตวบูชาดังนั้นตั้งแต่พระคริสต์ทรงสิ้นพระชนม์ เราติดต่อกับพระผู้เป็นเจ้าโดยตรงผ่านพระเยซู พระเมษโปดกของพระเจ้าหรือมหาปุโรหิตของเรา มิได้ใช้สัตวบูชาเหมือนเดิมแต่ประการใด

<< หน้าก่อน หน้าถัดไป >>