บทที่ 6.การทำลายคนบาป

ในระหว่างพักรับประทานอาหารกลางวัน หญิงคริสเตียนคนหนึ่งพยายามพูดกับเพื่อนร่วมงานถึงเรื่องพระเจ้า หญิงสาวกลับตอบว่า “ฟังนะ ฉันไม่อยากได้ยินเรื่องของพระเจ้า พระเจ้ามีความรักเหมือนที่เธอพูดได้อย่างไร เมื่อพระองค์ยังทรมานคนในนรกอยู่ชั่วกัปชั่วกัลป์อย่างนี้ ถ้าพระเจ้าเป็นอย่างนั้น ฉันไม่อยากจะรู้จักพระองค์”

หญิงคริสเตียนตอบว่า “ฉันยินดีที่จะบอกเธอว่าพระเจ้าไมได้เป็นอย่างที่เธอเข้าใจนะ” จากนั้นเธอได้อธิบายให้หญิงสาวฟังว่า คนทั่วไปมองภาพพจน์ของพระเจ้าอย่างไม่ถูกต้องอย่างไร ทั้งความเข้าใจผิดอย่างใหญ่หลวงเรื่องไฟนรกของคนจำนวนมากว่าแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร

พระเจ้าทรงเป็นอย่างไร? 2 เปโตร 3:9 1 ทิโมธี 2:4

…………………………………………………………………………………………………

พระเจ้าทรงตรัสว่า พระองค์ไม่ต้องการให้ใครตาย ทรงต้องการให้ทุกคนได้รับความรอดจากบาป อย่างไรก็ตาม จะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ทำบาป โรม 6:23 เอเสเคียล 18:20

…………………………………………………………………………………………………ถึงแม้ว่ามนุษย์เลือกดำเนินชีวิตอยู่ในความผิดบาป พระเจ้าทรงรู้สึกต่อความตายของพวกเขา อย่างไร เอเสเคียล 33:11

………………………………………………………………………………………………….

การทำลายคนบาปจะเริ่มขึ้นเมื่อใดและที่ไหน มัทธิว 13:40-42 วิวรณ์ 20:7-10; 13-15

………………………………………………………………………………………………….

ขณะนี้ยังไม่มีนรก การทำลายคนบาปจะเริ่มขึ้นเมื่อครบเวลาหนึ่งพันปีและจะเกิดขึ้นบนโลกนี้

พระธรรมมาลาคีได้อธิบายเวลาสุดท้ายของการทำลายไว้อย่างไร มาลาคี 4:1-3

...............................................................................................................................................

จะเกิดอะไรขึ้นกับซาตาน เอเสเคียล 28:18, 19 วิวรณ์ 20:10

...............................................................................................................................................

เมื่อพระคัมภีร์กล่าวถึงการทำลายเหล่าคนบาปครั้งสุดท้าย ใช้คำว่า “ไหม้หมด” “เผาผลาญ” “ทำให้หมดสิ้นไป” และ “เถ้าถ่าน” และพระคัมภีร์ได้กล่าวไว้ว่า “และซาตานก็จะไม่มีอยู่อีกต่อไป” คำเหล่านี้ดูเหมือนว่าจะเป็นที่สิ้นสุด สิ่งใดที่ถูกเผาไหม้หมดไปแล้วไม่มีอะไรเผาไหม้อีก แต่จะถูกทำลาย เมื่อเชื้อเพลิงลุกไหม้หมดแล้วมีอะไรเกิดขึ้นกับไฟ ไฟนั้นก็ดับไป จะเห็นได้ว่า ไฟนรกก็ดับไปด้วย จะไม่ลุกไหม้อยู่อย่างนั้นตลอดไป

ในข้อพระคัมภีร์ที่ใช้คำว่า “ตลอดไปเป็นนิตย์ ที่เกี่ยวกับนรก พระคัมภีร์ขัดแย้งกันเองหรือไม่ หรือมีหมายความว่าอย่างไร การศึกษาบางคำในพระคัมภีร์อย่างง่ายๆ จะช่วยทำให้ความเข้าใจผิดเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องนรกมีความชัดเจนขึ้น

ประการแรก คำว่า “นรก” ถูกใช้ในพระคัมภีร์ 55 ครั้ง และมีเพียง 12 ครั้งที่ได้พูดถึง “ที่มีไฟเผาผลาญ”

ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ใช้คำว่า “Sheol” “แดนผู้ตาย” (แดนคนตาย) หมายถึงนรกถึง 31 ครั้ง และมีความหมายถึงสภาพที่มองไม่เห็น หรือหลุมฝังศพ ในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ คำในภาษากรีก “Hades” “แดนคนตาย” 11 ครั้ง และมีความหมายว่า “บาดาลหรือหลุมฝังศพ”

มีครั้งหนึ่งในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ คำภาษากรีก “Tartarus” นำมาใช้มีความหมายว่า “ห้วงเหวที่มืดมิด” และคำภาษากรีกคำว่า “Gehenna” ได้ถูกใช้ถึง 12 ครั้งซึ่งหมายถึง “ที่มีไฟเผาผลาญ” คำว่า “Gehenna” เป็นคำที่เขาใช้เรียกไฟที่ไหม้กองขยะที่อยู่นอกเมืองเยรูซาเล็มซึ่งไม่ได้ไหม้อยู่ตลอดกาล

จากน้ำหนักของข้ออ้างอิงเหล่านี้ทำให้เห็นว่า คำว่า “นรก” ในพระคัมภีร์จึงหมายถึงความตายหรือหลุมฝังศพ ไม่ใช่ไฟที่ไหม้อยู่ตลอดไป มีพระคัมภีร์บางข้อที่ดูเหมือนบอกว่านรกยังอยู่ตลอดไป ในพระธรรมวิวรณ์ 14:11 กล่าวไว้อย่างไร

...............................................................................................................................................

อย่างแรก ให้สังเกตว่า ควันเท่านั้นที่จะพลุ่งขึ้นตลอดไปเป็นนิตย์ ซึ่งถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้น หมายความว่าผลของไฟนรกนั้นจะอยู่ตลอดไปเป็นนิตย์ หลังจากที่ถูกทำลายไปแล้วคนบาปจะไม่มีชีวิตอีกต่อไป

สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ต้องเข้าใจการใช้คำว่า “ตลอดไปเป็นนิตย์” ในพระคัมภีร์ คำนี้ใช้ขึ้นอยู่กับว่าบรรยายถึงสิ่งใด เมื่อใช้บรรยายเกี่ยวกับพระเจ้า จะหมายความว่าไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อใช้บรรยายที่เกี่ยวกับมนุษย์ จะหมายความว่าตราบจนถึงเวลาที่เขามีชีวิตอยู่ หรือจนถึงเวลาที่เขาตาย

นางฮันนากล่าวว่าจะถวายบุตรของเธอแก่พระเจ้านานเท่าไร 1 ซามูเอล 1:28

...............................................................................................................................................

คำว่า “ตราบใด” ในกรณีนี้ นานเท่าไร 1 ซามูเอล 1:28

...............................................................................................................................................

จากการประยุกต์ความเข้าใจดังกล่าวให้เข้ากับความหมายของคำว่า “ตลอดไปเป็นนิตย์” กับคนบาป เราก็จะเข้าใจได้ว่า คนเหล่านั้นจะถูกเผาผลาญเท่าที่ชีวิตของพวกเขามีอยู่เท่านั้น พระคัมภีร์ได้กล่าวถึงพวกเขาไว้อย่างไร สดุดี 37:20 และ มาลาคี 4:1

...............................................................................................................................................

ให้ท่านสังเกตดูคำเหล่านี้อีกครั้ง “พินาศ” “อันตรธานไปเหมือนควัน” “ไหม้เขาหมด จนไม่มีรากหรือกิ่งเหลืออยู่เลย” สิ่งเหล่านี้บอกให้รู้ว่าการทำลายนั้นสิ้นสุดสมอย่างบูรณ์แล้ว คนบาปทั้งหมดจะไม่ถูกลงโทษตลอดไป การลงโทษนั้นจะสิ้นสุดตลอดไป คำว่า ”ตลอดไปเป็นนิตย์” หรือ “ไหม้อยู่เป็นนิตย์” ที่กล่าวไว้ใน มัทธิว 25:41 หมายความว่าอย่างไร พระคัมภีร์ใช้คำในการอธิบายการทำลายล้างเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ ว่าอย่างไร ยูดา ข้อที่ 7

...............................................................................................................................................

เมื่องเหล่านี้ไม่ได้ถูกไฟเผาผลาญมาจนถึงทุกวันนี้ แต่พระคัมภีร์ยังใช้คำว่า “ไฟนิรันดร์” เราจะเห็นได้ว่า ผลที่เกิดจากการถูกไฟไหม้ต่างหากที่จะคงอยู่ตลอดนิรันดร์ ไม่ใช่ไฟที่ไหม้อยู่ตลอดไป

เมื่อสิ้นระยะเวลาพันปีแล้ว นอกจากความบาปและคนบาปที่จะถูกทำลาย มีอะไรอีกที่จะต้องถูกเผาผลาญจนหมดสิ้น 2 เปโตร 3:10

...............................................................................................................................................

หลังจกโลกถูกชำระด้วยไฟแล้ว พระเจ้าจะทำอะไรกับโลกนี้2 เปโตร 3:13 และ วิวรณ์ 21:1

...............................................................................................................................................

พระเจ้าจะทรงสร้างโลกใหม่ที่ปราศจากความผิดบาป ท่านอยากจะมีส่วนในโลกใหม่นี้ไหม? ท่านจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะได้เข้าไปอยู่ในโลกใหม่นี้ ยอห์น 3:16, 17

...............................................................................................................................................

พระเยซูเท่านั้นผู้เป็นหนทางนำไปสู่ชีวิตนิรันดร์ และจะเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะช่วยเราให้หลุดพ้นจากการถูกทำลายตลอดนิรันดร์ การใช้ชีวิตของพระองค์ การสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พระเจ้าทรงรักคนบาปจริง และไม่ประสงค์จะให้ใครพินาศแม้แต่คนเดียว ท่านรู้สึกขอบพระคุณพระองค์ที่ทรงรักท่านมากมายไหม

โปรดพิจารณา

1. เมื่ออ่านจากพระคัมภีร์ นรกคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นบนโลกนี้เมื่อสิ้นสุดระยะเวลา 1,000 ปี หลังจากนั้นพระเจ้าก็จะสร้างโลกขึ้นมาใหม่ โลกใหม่จะเกิดขึ้นในที่เดียวกันได้อย่างไรถ้าโลกเก่ายังคงถูกไฟเผาผลาญอยู่อย่างนั้นตลอดไป

2. พระคัมภีร์ใช้วลีที่บอกว่า “ผลาญ” “ทำลาย” และ “ไม่เหลืออยู่เลย” ในการอธิบายถึงการทำลายล้างซาตานและพรรคพวกของมัน การบอกว่าคนบาปยังคงอยู่ในบึงไฟนรก จะไม่เป็นการขัดแย้งกันหรือ ในเมื่อพระคัมภีร์กล่าวว่าหลังจากที่คนบาปถูกทำลายแล้วจะไม่เหลืออยู่อีกต่อไป

3. พระคัมภีร์กล่าวว่า หนทางเดียวเท่านั้นที่จะมีชีวิตนิรันดร์คือ โดยทางพระเยซูคริสต์ ถ้าพวกคนบาปยังถูกเผาอยู่อย่างนั้น ก็แสดงว่าพวกเขายังจะต้องมีรูปแบบชีวิตที่ไม่สิ้นสุด คนบาปเหล่านั้นจะมีชีวิตอยู่ในไฟที่เผาผลายอยู่เป็นนิตย์ โดยไม่มีพระเยซูได้อย่างไรในเมื่อพระองค์คือผู้ประทานความเป็นนิรันดร์ให้แก่ทุกชีวิตได้แต่เพียงผู้เดียว

ถามตัวท่านเอง

ข้าพเจ้ารอคอยเวลาที่พระเจ้าจะทรงกำจัดความบาปให้หมดสิ้นไปและทรงสร้างโลกใหม่ที่สมบูรณ์ขึ้นหรือไม่

□ ใช่ เพราะว่าข้าพเจ้าได้ยอมรับเอาพระเยซูและมีชีวิตนิรันดร์โดยพระองค์แล้ว

□ ข้าพเจ้ายังไม่แน่ใจ เพราะยังเป็นห่วงอยู่ว่าตนเองจะไม่ได้รับความรอด

ข้าพเจ้าเป็นห่วงสมาชิกในครอบครัวและเพื่อน ข้าพเจ้าปรารถนาให้ทุกคนได้รับความรอดเช่นกัน ข้าพเจ้าจะอธิษฐานเพื่อคนเหล่านี้

.......................................................................................................