ข้อที่ 4. การเก็บเกี่ยวสองครั้ง

ข่าวทูตสวรรค์ทั้งสามองค์จะสิ้นสุดลงเมื่อพระเยซูเสด็จมาในโลกเพื่อเก็บเกี่ยวผู้ที่รอดพ้นจากบาปทุกคนจากทุกยคทุกสมัย (วิวรณ์ 14:14-16) พระเยซูจะทรงรวบรวมผู้ที่รอดแล้ว เพื่อนำเขาไปยัง “พระนิเวศ....(ซึ่ง) มีที่อยู่มากมาย” ของพระบิดาในสวรรค์ (ยอห์น 14:1-3,) พระองค์ทรงทำลายบาป ความเจ็บป่วย ความทรมานและความตายให้หมดสิ้นไป ธรรมิกชนเริ่มต้นชีวิตใหม่กับพระองค์อย่างเป็นสุข ตลอดไปเป็นนิตย์ (วิวรณ์ 21:1-4)

พระเยซูจะทรง “เก็บเกี่ยว” คนอธรรมเมื่อพระองค์เสด็จมาด้วย

“ทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่งก็ออกมาจากพระวิหารในสวรรค์ และท่านก็มีเคียวอันคมกริบเช่นกันและทูตสวรรค์อีกองค์หนึ่ง......และร้องเสียงดังบอกทูตสวรรค์ที่มีเคียวคมกริบว่า ‘จงใช้เคียวคมกริบของท่านเก็บรวบรวมพวงองุ่นจากเถาองุ่นของแผ่นดินโลก เพราะผลองุ่นนั้นสุกแล้ว’ทูตสวรรค์นั้นก็ตวัดเคียวไปบนแผ่นดินโลก และเก็บรวบรวมเถาองุ่นของแผ่นดินโลก และเทลงไปในบ่อย่ำองุ่นใหญ่แห่งความกริ้วของพระเจ้า บ่อย่ำองุ่นก็ถูกย่ำภายนอกเมือง และโลหิตไหลออกจากบ่อย่ำองุ่นนั้น” วิวรณ์ 14:17-20

ครั้งนี้จะเป็นเวลาที่น่าสลดใจของความพินาศครั้งสุดท้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าเหลือเกินสำหรับพระคริสต์ เพราะพระองค์ต้องทำลายบรรดาคนที่ปฏิเสธการช่วยให้รอดจากบาป พระเยซู “ทรงอดทนกับท่าน ไม่ทรงประสงค์ให้ใครต้องพินาศเลย แต่ทรงประสงค์ให้ทุกคนกลับใจใหม่” (2 เปโตร 3:9)

เมื่อพระเยซูทรงมาเก็บเกี่ยวสิ่งที่พระองค์ทรงหว่านไว้ในโลก ท่านจะอยู่ในการเก็บเกี่ยวครั้งไหน? ท่านจะยืนท่ามกลางเมล็ดข้าวที่เหลืองพร้อมสำหรับการเกี่ยว ร่วมกับผู้ที่ได้รับการไถ่บาปเรียบร้อยแล้วจากทุกยุคทุกสมัยหรือไม่ (วิวรณ์ 14:13-16)? หรือท่านจะอยู่ท่ามกลางองุ่นแห่งความกริ้วที่สุกงอมแล้วร่วมกับคนที่หลงหาย (วิวรณ์ 14:17-20)?

เรื่องราวทุกอย่างได้รับการชี้แจงอย่างชัดเจนหมดแล้ว ข้างหนึ่ง พระเยซูทรงยืนผายพระหัตถ์ที่มีรอยถูกตรึงออกกว้างเพื่อเชิญชวนท่านให้ยืนอยู่ข้างเดียวกับ “ธรรมิกชนซึ่งประพฤติตามพระบัญญัติของพระเจ้าและยึดถือความจงรักภักดีต่อพระเยซู” (วิวรณ์ 14:12) ส่วนอีกข้างหนึ่งเป็นเพียงเสียงมนุษย์ธรรมดาที่คอยชักนำว่าการเชื่อฟังพระคัมภีร์และพระบัญญัติของพระเจ้านั้นไม่สำคัญ

ครั้งหนึ่งในการประชุมการตัดสินความของปีลาต ฝูงชนเผชิญหน้ากับประเด็นที่ขัดแย้งแบบเดียวกันนี้ ข้างหนึ่งคือพระเยซู พระเจ้าในร่างมนุษย์ มนุษย์ผู้เป็นพระเจ้า ส่วนอีกข้างหนึ่งคือบารับบัสนักโทษที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ หรือช่วยฝูงชนผู้เป็นพยานภาพโศกนาฏกรรมอันน่ากลัว แม้จะเห็นว่าอะไรถูกหรืออะไรผิด เมื่อปีลาตผู้ครองแคว้นยูเดียถามฝูงชนว่า “ในสองคนนี้พวกเจ้าจะให้เราปล่อยคนไหน?” ฝูงชนเหล่านั้นร้องประสานเป็นเสียงเดียวกันว่า “บารับบัส!”

“อะไรนะ” ผู้ครองแคว้นยูเรียถาม “ถ้าอย่างนั้น เราจะทำอย่างไรกับเยซูที่เรียกว่าพระคริสต์?”

ฝูงชนต่างตะโกนเป็นเสียงเดียวกันอีกว่า “ให้ตรึงที่กางเขน” ดังนั้นพระเยซูผู้บริสุทธิ์จึงถูกตรึงกางเขน ขณะที่บารับบัส ผู้กระทำผิดกลับได้รับอิสระ (ดูในมัทธิว 27:20-26)

วันนี้ท่านจะเลือกใครระหว่างบารับบัสและพระเยซู? ท่านจะเลือกมีติดตามความคิดอ่านที่มนุษย์คิดขึ้นซึ่งตรงกันข้ามกับพระบัญญัติและขัดแย้งกับข่าวประเสริฐนิรันดร์ของพระเจ้าหรือ? หรือท่านปรารถนาที่จะ “รักษาพระบัญญัติของพระเจ้า และจงรักภักดีต่อพระเยซู?” โปรดระลึกอยู่เสมอว่าพระเยซูคือผู้ทรงสัญญาว่าจะส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์มาแก้ไขปัญหาอย่างของท่าน มารักษาความเจ็บปวดทางใจทุกเรื่องที่ท่านมี และสนองความปรารถนาทุกอย่างของท่าน

<< หน้าก่อน หน้าถัดไป >>